คริสตจักรพันธกิจเชียงใหม่ Acts Church of Chiang Mai  
 
206 หมู่1 ต.ป่าแดด อ.เมือง  จ.เชียงใหม่ 50100 Tel. 053 275052, 089 6351009
 
 
CHURCH | SERVICES | PEOPLE GROUP | MINISTIES | GETTING INVOLVED | NEWS | ACTIVITIES | TESTIMONIES | RESOURCES
คำเทศนา | นมัสการ | สูจิบัตร | Acts News | บทความ | ดนตรี | ภาพยนต์ | หนังสือ | บทเรียนผู้เชื่อใหม่ | กิจกรรม | คำพยาน | คู่มือเฝ้าเดี่ยว QT  



หัวหอกแห่งการฟื้นฟู

ในหลายสิบปีที่ผ่านมา  มีคำพยากรณ์มากมายที่บอกว่า การฟื้นฟูครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
โดยไฟแห่งการฟื้นฟูจะถูกจุดขึ้นที่ภาคเหนือก่อนแล้วแพร่ลามไปทั่วทุกภูมิภาคของ­ประเทศ
การเปิดเผยโดยพระวิญญาณของพระเจ้าในเรื่องนี้ เกิดขึ้นย้ำๆ ซ้ำกันหลายครั้ง
จนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางทั่วไปในท่ามกลางคริสตชนทั้งหลายราวกับเป็นข้­อเท็จจริงฝ่ายวิญญาณไปแล้ว

      ประกอบกับ เมื่อพิจารณาข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์
เหตุการณ์ที่คริสเตียนไทยคนแรกได้ยอมตายเพราะความเชื่อ
เกิดขึ้นที่บ้านแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ และข้อมูลเชิงสถิติพบว่า
จังหวัดที่มีจำนวนคริสตจักรมากที่สุดในประเทศไทยนั้นคือเชียงใหม่
(รองลงมาคือกรุงเทพฯ และเชียงราย)
เมื่อมองโดยภาพรวมแล้วภาคเหนือจึงเป็นชุมชนคริสเตียนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

      องค์ประกอบเหล่านี้  ทำให้ผู้เชื่อทั้งในท้องถิ่น และทั่วประเทศ
และแม้กระทั่งบรรดามิชชั่นนารีที่เกี่ยวข้องต่างกำลังคาดหวังที่จะเห็นการฟื้นฟ­ูเกิดขึ้นในยุคสมัยของตน

      คำถามข้อใหญ่คือ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? และในรูปแบบใด?

ผู้รับใช้พระเจ้าหลายท่านที่มีใจร้อนรนได้พากันลุกขึ้นเพื่อจะกระทำให้นิมิตนี้­สำเร็จ
สิ่งที่กลายเป็นคำสามัญติดปากเราทุกคนไปแล้วก็คือคำว่า "การประชุมฟื้นฟู"
ทุกคนอยากเห็นการฟื้นฟูเกิดขึ้น เราจึงลุกขึ้นจัดการประชุมฟื้นฟู...
จัดกลุ่มอธิษฐานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟู... จัดสัมมนา
จัดประกาศกลางแจ้ง จัดรวมพลังนมัสการ ตลอดจนกิจกรรมฝ่ายวิญญาณต่างๆ
โดยความคาดหวังว่า เราจะไปแตะโดน "ปุ่มฟื้นฟู" เข้าสักวันหนึ่ง
จนการฟื้นฟูระเบิดขึ้นและลุกลามไปทั่ว...

      นักธุรกิจคริสเตียนหลายท่านยอมทุ่มทุนไปมากมาย
เพราะอยากเห็นการฟื้นฟูเกิดขึ้น

      สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงการประชุมที่น่าตื่นเต้น และเร้าใจ...
และคริสตจักรอาจยังคงอยู่ห่างไกลจากคำว่า "ฟื้นฟู" อีกหลายก้าว...

      ที่น่าคิดคือ  การประชุมที่จัดๆ ไปนั้นอาจต้องใช้เงินมาก
ในขณะที่ถ้าเกิดการฟื้นฟูขึ้นจริงๆ  เราอาจไม่ต้องใช้เงินเลยก็ได้...

      ผู้นำคริสตจักรหลายท่าน
ยอมทุ่มเทเรี่ยวแรงและทรัพย์สินด้วยความตั้งใจดีที่อยากเห็นการฟื้นฟูเกิดขึ้น

      เราเฝ้าเสาะแสวงหา "นักเทศน์ฟื้นฟู" หรือทีมฟื้นฟู
เพื่อจะเชิญมาทำการฟื้นฟูในคริสตจักรหรือกลุ่ม คณะ ของเรา

      เราได้รับการเจิมด้วยไฟ  เราได้สัมผัสน้ำพุของพระเจ้า
มีคนล้มลงในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ  มีคนหัวเราะชนิดควบคุมตัวเองไม่ได้
เพราะความปิติยินดีในพระวิญญาณ มีคนร้องไห้เพราะสำนึกผิดบาป
มีคนกลับใจใหม่เพราะเห็นฤทธิ์อัศจรรย์ของพระเจ้า...

      ผมเคยเห็นสมาชิกจากคริสตจักรในสภาฯ
จำนวนมากโยกย้ายไปอยู่กับคริสตจักรเพนเตคอสต์หลายแห่งในเชียงใหม่
ต่อมาเมื่อมีการฟื้นฟู "การนมัสการในพระวิญญาณ"
สมาชิกจากคริสตจักรเพนเตคอสต์และสภาฯ
ก็พากันย้ายไปอยู่กับคริสตจักรคาริสเมติคต่างๆ
จนหลายคริสตจักรต้องรีบปรับตัวและ "ฟื้นฟู" แนวทางการนมัสการของตนเอง
เพื่อรักษาสมาชิกของตนไว้...

      เพราะความร้อนรนที่ทุกคนอยากเห็น
อยากมีส่วนในการฟื้นฟูใหญ่ของพระเจ้า
แค่เราได้เห็นประกายไฟของพระเจ้าที่โน่นนิด ที่นี่หน่อย
ได้แตะละอองน้ำของพระเจ้าบ้างแบบประปราย
เราก็จะรีบร้องตะโกนออกมาด้วยความยินดีว่า "ฟื้นฟูแล้ว ฟื้นฟูแล้ว"

      อีกประการหนึ่ง
เมื่อพระเจ้าเริ่มใช้ผู้นำบางท่านเพื่อเริ่มจุดประกายของการฟื้นฟูขึ้น
อารามดีใจเราก็รีบออกไปประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับรู้ถึง "ความสำเร็จ"
ที่กำลังเกิดขึ้น

      เส้นแบ่งระหว่าง "การเป็นพยานเพราะความยินดี" กับ
"การโอ้อวดถึงความสำเร็จ" นั้นบางมาก แทบจะแยกจากกันไม่ออก  มีแต่เจ้าตัว กับพระเจ้าเท่านั้นที่บอกได้ว่า ท่าทีลึกๆ ในใจของเรานั้นอยู่ฝ่ายวิญญาณหรือเนื้อหนัง และบางครั้งจิตใจของเราก็แยบยล และเหลี่ยมจัดจนตัวเองแยกไม่ออกเหมือนกันว่าเราก­ำลังอยู่ฝ่ายวิญญาณหรือเนื้อหนังกันแน่?


      ที่จริงหลายครั้ง  พวกเราหลายคนเริ่มต้นด้วยพระวิญญาณชัดๆ ....
พอมารู้ตัวอีกที การฟื้นฟูก็หยุดไปแล้ว และเรากำลังจบลงด้วยเนื้อหนัง

      หลายคนจึงดิ้นรนสร้างอนุสาวรีย์ให้แก่ตัวเอง
และการงานนับจากนั้นต่อไปก็เป็นเพียงแค่การเฝ้าซากของการฟื้นฟูซึ่งตอนนี้ได้กล­ายเป็นอดีตไปเสียแล้ว

      สรุปแล้วการฟื้นฟูที่ว่าได้เคยเกิดขึ้นในภาคเหนือแล้วหรือยัง?
หรือจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า?

ผมเชื่อว่าพระเจ้าได้พยายามที่จะทำให้เกิดการฟื้นฟูขึ้นมาหลายครั้งแล้วในช่วงท­ี่ผ่านมา

ทั้งในแง่ของการพลิกฟื้นจิตใจเหล่าคริสเตียนให้หันกลับมาสู่ความรักดั้งเดิมในพ­ระเจ้า
และการสำแดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าท่ามกลางผู้ที่ยังไม่เชื่อ
จนหลายคนยอมมอบถวายชีวิตให้แก่พระคริสต์

      สำหรับทุกท่านที่ร้อนรนเพื่อพระเจ้า
พระเจ้าอาจเคยเริ่มจุดประกายการฟื้นฟูนั้นผ่านตัวของคุณมาแล้วด้วยซ้ำ

      ยอมรับไหมว่า
ท่านเคยอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงใช้ท่านและคริสตจักรให้เป็นหัวหอกของการฟื้นฟู?
หรือขอให้ได้มีส่วนกับแผนการแห่งการฟื้นฟูของพระเจ้า?

      และพระเจ้าก็คงได้เคยพยายามที่จะตอบคำอธิษฐานนั้นเพื่อท่านไปแล้ว

      แต่กิจกรรมและท่าทีแบบเนื้อหนัง โดยเฉพาะความเย่อหยิ่ง คือสิ่งที่
"ดับ" พระวิญญาณ

      แล้วเศเดคียาห์บุตรเคนาอะนาห์ได้เข้าใกล้และตบแก้มมีคายาห์  พูดว่า
"พระวิญญาณของพระเจ้าไปจากข้า พูดกับเจ้าได้อย่างไร?"

                                                -1 พงศ์กษัตริย์ 22 ข้อ
24, 25

กษัตริย์อาหับได้ชักชวนเยโฮชาฟัทออกไปทำสงครามยึดดินแดนคืนจากซีเรีย
เยโฮชาฟัทรับปากแต่โดยความยำเกรงพระเจ้าจึงอยากรู้ก่อนว่าเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า­หรือไม่ที่จะออกไปทำสงครามครั้งนี้
อาหับบัญชาให้เรียกผู้เผยพระวจนะมาสี่ร้อยคนเพื่อแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า
ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าพระเจ้าสำแดงให้ออกไปรบ และจะมีชัยชนะแน่

มีคายาห์ผู้เผยพระวจนะถูกเรียกตัวมาในช่วงสุดท้ายเพื่อให้เปิดเผยถึงน้ำพระทัยพ­ระเจ้า
ท่านทูลต่อกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า
กองทัพอิสราเอลจะพ่ายแพ้และพระองค์จะถึงแก่ชีวิต
ซึ่งทำให้อาหับไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง เศเดคียาห์
ผู้เผยพระวจนะเทียมซึ่งถูกครอบงำด้วยวิญญาณมุสาจึงเข้ามาตบหน้ามีคายาห์
พร้อมกับตั้งคำถามว่า "พระวิญญาณของพระเจ้าไปจากข้า
พูดกับเจ้าได้อย่างไร?"

      ประโยคนี้ มีความหมายในทำนองที่ว่า...

      ถ้าพระเจ้าเป็นพระเจ้าจริง
พระเจ้าต้องพูดหรือทำการผ่านทางข้าเท่านั้น...

      ถ้าพระเจ้าจะฟื้นฟูจริง
พระเจ้าจะต้องฟื้นฟูผ่านทางคริสตจักรหรือคณะของเราเท่านั้น...

      เศเดคียาห์  มีทีมงานตั้งสี่ร้อยคน  มีชื่อเสียง มีเกียรติ
มีเครดิตน่าเชื่อถือมากกว่ามีคายาห์อยู่อย่างเห็นได้ชัด

      ตามมาตรฐานของอาหับแล้ว
พวกเขามีประวัติและชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับนับถือในแวดวงพันธกิจมากกว่า...

      เศเดคียาห์ก็คงเชื่ออย่างนั้นโดยสนิทใจ
โดยอิทธิพลที่เขามีอยู่พอสมควรต่อหน้ากษัตริย์
เขาจึงตบหน้าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าและตั้งคำถามออกไปในทำนองเย้ยหยันแบบนั้น.­..

      ทุกวันนี้ อาจไม่มีผู้นำท่านใดกล้ายอมรับอย่างเปิดเผยว่า ลึกๆ
ภายในเราอาจมีท่าทีเช่นนี้ซ่อนอยู่

      แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเล้นรับจนถึงกับเรามองไม่เห็นเสียเลยทีเดียว

      เพราะพระเจ้าอาจยอมให้เกิดความเคลื่อนไหว เกิดเหตุการณ์ "ฟื้นฟู"
แบบย่อมๆ ขึ้นมา ที่โน่นนิดที่นี่หน่อย เพื่อทดสอบดูท่าทีในใจของเรา
หรือเพื่อทำให้ท่าทีในใจของเราเปิดเผยออกมา....

      เมื่อเราพยายามผูกขาดว่า การฟื้นฟูของแท้
หรือการเคลื่อนไหวของพระเจ้าจะต้องเกิดขึ้นผ่านทางเราเท่านั้น

      เมื่อเรารู้สึกขัดเคืองใจที่เห็นคนอื่นได้เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟู
แต่เราไม่

      เมื่อเราพยายามลดความน่าเชื่อถือในการฟื้นฟูของคนอื่น..
กลุ่มอื่น...ซึ่งเราไม่ได้เป็นคนริเริ่ม

      เมื่อเรารับไม่ได้
ที่จะเห็นพระเจ้าใช้คนอื่นเป็นหัวหอกของการฟื้นฟูแทนเรา?

      เมื่อเราไม่พอใจที่พระเจ้าเลือกใช้ และเคลื่อนไหวผ่านคนอื่น
โดยที่ไม่ทรงมาปรึกษาเราก่อน?

      "ฉาด!" เสียงตบดังจนหน้าหัน พร้อมกับคำถามยอดฮิต
"พระวิญญาณของพระเจ้าพรากจากข้าไปพูดกับเจ้าได้อย่างไร?"

      ความเย่อหยิ่งทำให้พระพรหยุดชะงัก
ความหยิ่งยะโสเป็นเหมือนน้ำเย็นที่ดับไฟของพระวิญญาณ
เป็นต้นเหตุของการแก่งแย่งชิงดี แตกแยก ทะเลาะเบาะแว้งและเห็นแก่ตัว
ตลอดจนอุบายต่ำช้าสารพัดอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในแวดวงการรับใช้พระเจ้า
ทั้งการใส่ร้าย ป้ายสี การแทงข้างหลัง การหักหลัง การโจมตี
และกิจกรรมอีกหลายอย่างที่เรากระทำกันอยู่ "ในพระนามของพระเจ้า"

      ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้
ยังไม่ใช่การฟื้นฟูตามความหมายของคำพยากรณ์สำหรับภาคเหนือเลย ทั้งๆ
ที่สิ่งที่เราและเพื่อนผู้รับใช้พระเจ้ากำลังสัมผัสอยู่นี้เป็นเพียงแค่ส่วนเสี­้ยวของการฟื้นฟูใหญ่ที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น

      แต่ก็ถือเป็นการทดสอบด่านแรก
ว่าเราพร้อมกันหรือยังสำหรับการฟื้นฟูใหญ่ที่กำลังจะมาถึง?

และก็น่าจะเป็นคำตอบที่เพียงพอแล้วว่าทำไมการฟื้นฟูใหญ่อย่างที่กล่าวขานกันมาน­านนั้นยังไม่เกิดขึ้นซักที?

      ในชั่วชีวิตผู้รับใช้พระเจ้าคนหนึ่ง
ผมว่ามันเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ถ้าพระเจ้าจะเลือกใช้เราให้มีส่วนในการฟื้นฟูให­ญ่ที่จะมาถึงประเทศไทย
- เริ่มต้นที่ภาคเหนือก่อน

      ถึงแม้จะไม่ได้เป็นหัวหอก  ไม่ได้เป็นผู้นำการฟื้นฟู
แค่ได้มีส่วนในแผนการของพระเจ้าเพียงเล็กน้อยก็น่าภูมิใจมากยิ่งแล้ว

      แต่หัวใจของการรับใช้ที่เราต้องคงรักษาไว้ก็คือ
"พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนเราจะต้องเล็กลง"

      และหลักการแห่งแผ่นดินสวรรค์ก็แปลกประหลาดและพลิกผัน
ตรงข้ามกับระบบของโลกไปอย่างสิ้นเชิง -อะไรๆ
ที่คนเราดิ้นรนไขว่คว้าและเสาะแสวงหา เรามักจะต้องสูญเสียมันไป
แต่เมื่อท่าทีของเราถูกต้อง
และเราพร้อมจะสูญเสียทุกอย่างเพื่อเห็นแก่พระนามของพระเจ้าและแผ่นดินของพระองค­์
พระองค์กลับเลือกที่จะประทานสิ่งนั้นให้แก่เรา

      คุณอยากเป็นไหมล่ะ"หัวหอกของการฟื้นฟู"
เพื่อภาคเหนือและเพื่อประเทศไทยเรา?

      ผมเชื่อว่า  ถ้าคุณพร้อมที่จะถ่อมตัวลงอย่างแท้จริง
พระเจ้าก็ทรงพร้อมที่จะใช้คุณเช่นกัน

 


เขียนโดย : ประพันธ์ หน่อราช   
ข้อมูลจาก : http://www.gracezone.org/index.php/other-knowlage-christian/805-revive-leader
และพบกับบทความดีๆอีกมากมายได้ที่ >> http://www.gracezone.org

 












= RESOURCES =
Sermon
คำเทศนา
Sermon Series
ชุดคำเทศนา
Worship
นมัสการวันอาทิตย์
Acts News
ข่าวคริสตจักร
Article
บทความน่าสนใจ
Music
เพลงนมัสการ
Movies
หนังน่าสนใจ
Book
หนังสือแนะนำ
Sources
บทเรียนสำหรับสมาชิก
Worship Song
เนื้อเพลงนมัสการ
  ศาสนศาสตร์คืออะไร ทำไมต้องศาสนศาสตร์
ทำไมคริสตชนต้องรู้ศาสนศาสตร์ ต้องศึกษาศาสนศาสตร์ รู้พระคัมภีร์เฉยๆ ไม่ได้หรือ?
  จงออกไปประกาศข่าวประเสริฐ
เราจะนอนหลับได้อย่างไร เมื่อทุกๆวันมีผู้คนกำลังตายไปโดยไม่ได้รับความรอด
  ความรักสี่แบบและความรักคริสเตียน
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งบันทึกด้วยภาษากรีก ปรากฏคำเกี่ยวกับความรักอยู่ถึง 4 คำด้วยกัน ใช้บรรยาย ความรักที่แยกย่อยได้ถึง 4 ประเภท
  น้ำพระทัยของพระเจ้า
พระคัมภีร์ไม่ได้สอนเรื่องน้ำพระทัยของพระเจ้าแก่เรา ให้เป็นแค่เพียงแค่ความรู้เท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราในฐานะของผู้เชื่อ
  การตีสอนของพระเจ้า
บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าท้อถอยในเมื่อพระองค์ทรงตีสอนนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และเมื่อพระองค์ทรงรับผู้ใดเป็นบุตร พระองค์ก็ทรงตีสอนผู้นั้น
  การรับประทานอาหารที่ถวายรูปเคารพ
การกระทำของเราควรตั้งอยู่บนความรักที่มีต่อพระเจ้าและคนอื่นเป็นอันดับแรก หากความรักเป็น สิ่งแรกที่เราใช้ในการตัดสินใจในสิ่งต่างๆ เราจะปฏิเสธที่จะทำหรือหนุนใจให้คนอื่นทำในสิ่งที่ทำให้ผู้เชื่อแม้แต่เพียง หนึ่งคนสะดุดซึ่งเป็นเหตุนำเขาไปสู่ความพินาศ
 
MORE
ดูทั้งหมด


 
CONTACT
Vision | Mission Statement | Core Values | Pastor | Milestones
Sunday Service | Children Church | Bible Classes | Cell Groups | Pray Meeting
Adult | Young Pro. | Youth | Children | Toa
Visit Service | Visit Cell Groups | Membership | Church Office | Sunday Activities
Outreach | Church Camp | Membership | City Wide | Children | Worship Team | Art Class
Sermon | Worship | Bulletin | Acts News | Article | Music | Movies | Book | Sources