คริสตจักรพันธกิจเชียงใหม่ Acts Church of Chiang Mai  
 
206 หมู่1 ต.ป่าแดด อ.เมือง  จ.เชียงใหม่ 50100 Tel. 053 275052, 089 6351009
 
 
CHURCH | SERVICES | PEOPLE GROUP | MINISTIES | GETTING INVOLVED | NEWS | ACTIVITIES | TESTIMONIES | RESOURCES
คำเทศนา | นมัสการ | สูจิบัตร | Acts News | บทความ | ดนตรี | ภาพยนต์ | หนังสือ | บทเรียนผู้เชื่อใหม่ | กิจกรรม | คำพยาน | คู่มือเฝ้าเดี่ยว QT  



การรับประทานอาหารที่ถวายรูปเคารพ


• อ่าน 1โครินธ์ 8:1-13 1เรื่อง ของที่เขาบูชาแก่รูปเคารพนั้น เราทั้งหลายทราบแล้วว่า "เราทุกคนต่างก็มีความรู้" ความรู้นั้นทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น 2ถ้าผู้ใดถือว่าตัวรู้สิ่งใดแล้ว ผู้นั้นยังไม่รู้ตามที่ตนควรจะรู้ 3แต่ถ้าผู้ใดรักพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงรู้จักผู้นั้น 4เรื่องการกินอาหารที่เขาบูชาแก่รูปเคารพนั้น เรารู้อยู่แล้วว่า "รูปนั้นไร้สาระ" และ "มีพระเจ้าแท้แต่องค์เดียว" 5ถึงแม้จะมีพระมากในสวรรค์และในแผ่นดินโลกที่เขาเรียกว่าพระเจ้า (มีพระมากและเจ้ามากก็จริง) 6แต่ ว่าสำหรับพวกเรานั้นมีพระเจ้าองค์เดียว คือ พระบิดา และสิ่งสารพัดทั้งปวงบังเกิดขึ้นจากพระองค์ และเราเป็นมาเพื่อพระองค์ และเรามีพระเยซูคริสตเจ้าองค์เดียว และสิ่งสารพัดก็เกิดขึ้นโดยพระองค์ และเราก็เป็นมาโดยพระองค์ 7มิใช่ว่า ทุกคนมีความรู้อย่างนี้เพราะมีบางคนที่เคยนับถือรูปเคารพมาก่อน เมื่อได้กินอาหารนั้นก็ถือว่าเป็นของบูชาแก่รูปเคารพจริงๆ และจิตสำนึกผิดชอบของเขายังอ่อนอยู่ จึงเป็นมลทิน 8อาหารไม่เป็นเครื่องที่ทำให้พระเจ้าทรงโปรดปรานเรา ถ้าเราไม่กิน เราก็ไม่ขาดอะไร ถ้าเรากิน เราก็ไม่ได้อะไรเป็นพิเศษ 9แต่จงระวังอย่าให้เสรีภาพของท่านนั้น ทำให้คนที่มีความเชื่อน้อยหลงผิดไป 10เพราะ ว่าถ้าผู้ใดเห็นท่านที่มีความรู้ นั่งรับประทานอาหารในโบสถ์ของรูปเคารพ จิตสำนึกผิดชอบที่อ่อนของคนนั้นจะไม่เหิมขึ้น ทำให้เขาบังอาจกินของที่ได้บูชาแก่รูปเคารพนั้นหรือ 11ความรู้ของท่านจะทำให้พี่น้องที่มีความเชื่ออ่อน ซึ่งพระคริสต์ได้ทรงยอมวายพระชนม์เพื่อเขาต้องพินาศไป 12ฉะนั้น เมื่อท่านทำผิดต่อพวกพี่น้อง และทำร้ายจิตสำนึกผิดชอบที่อ่อนของเขา ท่านก็ได้ทำผิดต่อพระคริสต์ด้วย 13เหตุฉะนั้นถ้าอาหารเป็นเหตุที่ทำให้พี่น้องของข้าพเจ้าหลงผิดไป ข้าพเจ้าจะไม่กินเนื้อสัตว์อีกต่อไป เพราะเกรงว่าข้าพเจ้าจะทำให้พี่น้องต้องหลงผิดไป”

 

• เบื้องหลังทางประวัติศาสตร์: เมืองโครินธ์เป็นเมืองเก่าเมืองหนึ่งของประเทศกรีซ เป็นเมืองใหญ่มีความเจริญในหลายทางในช่วงชีวิตของเปาโล คนในเมืองนี้มีความหยิ่งในความรู้ มีความมั่งคั่งทางวัตถุ และความชั่วร้ายทางศีลธรรม สามารถกล่าวได้ว่าความบาปทุกชนิดสามารถเฟื่องฟูในเมืองที่เต็มไปด้วยราคะ เมืองนี้ได้ 

• ในเรื่องการรับประทานอาหารที่ถวายให้แก่รูปเคารพนั้น สามารถอธิบายภูมิหลังเพิ่มเติมได้อย่างน้อย 2 ประการคือ:-
• 1) เป็นเรื่องปกติของชาวโครินธ์ที่จะรับประทานอาหารในวิหารของรูปเคารพ หรือในที่อื่นที่มีความเกี่ยวพันกับรูปเคารพ กิจกรรมที่ทำเมื่อคนมารวมกันในสังคมมักจะเกี่ยวข้องกับการถวายเครื่องบูชา แก่รูปเคารพ (หากคริสเตียนในเมืองนี้อยากมีส่วนในสังคมก็หลีกเลี่ยงเรื่องการเกี่ยวข้อง กับรูปเคารพได้อย่างยากลำบาก)
• 2) เนื้อส่วนมากที่ขายในตลาดมักจะถูกถวายเพื่อบูชารูปเคารพมาก่อนแล้ว โดยส่วนหนึ่งของสัตว์ที่นำไปถวายจะให้แก่แท่นบูชาพระที่พวกเขาเชื่อ ส่วนหนึ่งให้กับนักบวช อีกส่วนหนึ่งให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วนักบวชจะนำเนื้อที่ไม่ได้ใช้ไปขายต่อ จึงเป็นการยากที่จะแยกแยะว่าเนื้อที่นำมาขายนั้นผ่านการถวายแก่รูปเคารพมา หรือยัง

 

• ดังนั้น จึงมีคำถามเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ประการท่ามกลางผู้เชื่อในเมืองโครินธ์คือ เรื่องการเป็นส่วนหนึ่งหรือการเข้าร่วมงานเลี้ยงของรูปเคารพ กับการรับประทานเนื้อที่ขายในตลาดที่ถูกใช้เป็นเครื่องบูชามาก่อน

 

1. คำสอนของเปาโล จาก  1โครินธ์  บทที่ 8

• ในบทที่ 8 นี้และต่อเนื่องไปถึงบทที่ 10 เปาโลได้กล่าวถึงคำถามของชาวโครินธ์เกี่ยวกับเนื้อที่ถวายให้แก่รูปเคารพว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ในการซื้อมาและรับประทาน และรวมไปถึงการมีส่วนร่วมในเทศกาลในวิหารของรูปเคารพ
• ข้อ 10 “เพราะว่าถ้าผู้ใดเห็นท่านที่มีความรู้ นั่งรับประทานอาหารในโบสถ์ของรูปเคารพ จิตสำนึกผิดชอบที่อ่อนของคนนั้นจะไม่เหิมขึ้น ทำให้เขาบังอาจกินของที่ได้บูชาแก่รูปเคารพนั้นหรือ”

 

• ในการแก้ไขประเด็นปัญหานี้ เปาโลได้แสดงถึงหลักการที่สำคัญซึ่งคริสเตียนทุกยุคทุกสมัยจะต้องนำไป ปฏิบัติ หลักการนี้ประยุกต์ใช้ได้กับทุก “พฤติกรรมที่เป็นปัญหา” (หมายถึงพฤติกรรมที่อาจจะไม่ผิดในตัวมันเอง ในกรณีนี้ก็คือการรับประทานอาหารที่ถวายรูปเคารพแล้ว ซึ่งแท้จริงแล้วสามารถทานได้เพราะในข้อ 4 เปาโลกล่าวว่ารูปเคารพนั้นไม่มีอะไรในแง่ของอาหาร ดังนั้นอาหารแม้ถวายให้รูปเคารพแล้วยังสามารถทานได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความรู้อย่างนี้ โดยเฉพาะผู้เชื่อใหม่) ที่อาจจะเป็นเหตุให้ผู้เชื่อหลายคนถูกทดลองให้กระทำบาปและนำพวกเขาไปสู่ความ พินาศ

 

• ข้อ 11 “ความรู้ของท่านจะทำให้พี่น้องที่มีความเชื่ออ่อน ซึ่งพระคริสต์ได้ทรงยอมวายพระชนม์เพื่อเขาต้องพินาศไป”
• พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ดลใจให้เปาโลเขียนชี้แนะให้ผู้เชื่อทุกคนแสดงออกทุก สิ่งด้วยความรักที่มีต่อผู้เชื่อคนอื่น  ซึ่งในการนี้พวกเขาอาจจำเป็นต้อง “ปฏิเสธตนเอง”  

 

“การปฏิเสธตนเอง” หมายถึงการจำกัดเสรีภาพของตนเองในการทำสิ่งต่างๆ และไม่แสดงทุก “พฤติกรรมที่เป็นปัญหา” ที่จะเป็นเหตุทำร้ายหรือทำลายความเชื่อของพี่น้องคริสเตียนคนอื่นในสิ่งที่เขาเชื่อตามหลักการพระคัมภีร์
• สิ่งที่ตรงกันข้าม “การปฏิเสธตนเอง” คือ “การปกป้องสิทธิของตนเอง” ในการที่จะแสดง “พฤติกรรมที่เป็นปัญหา” ต่อไป โดยไม่สนใจพี่น้อง

 

• เปาโลได้กล่าวในข้อ (2) ว่า คนที่ดึงดันที่จะทำตามสิทธิของตนเองใน “พฤติกรรมที่เป็นปัญหา” ต่อไปบนพื้นฐาน “ความรู้” และ “ความเข้าใจ” ของตนเองนั้น แท้จริงแล้วเขายังไม่รู้ในสิ่งที่เขาควรรู้ เพราะว่าความรู้ต่างๆ ในชีวิตของเรานั้นไม่สมบูรณ์และไม่ครบถ้วน ดังนั้นการกระทำของเราควรตั้งอยู่บนความรักที่มีต่อพระเจ้าและคนอื่นเป็นอันดับแรก หากความรักเป็น สิ่งแรกที่เราใช้ในการตัดสินใจในสิ่งต่างๆ เราจะปฏิเสธที่จะทำหรือหนุนใจให้คนอื่นทำในสิ่งที่ทำให้ผู้เชื่อแม้แต่เพียง หนึ่งคนสะดุดซึ่งเป็นเหตุนำเขาไปสู่ความพินาศ ในข้อ (3) จึงกล่าวว่าผู้ที่ดำเนินชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ของความรักจึงเป็นผู้ที่ “พระเจ้าทรงรู้จักผู้นั้น”

 

• ใครก็ตามที่การกระทำของเขาได้กลายเป็นตัวอย่างให้ผู้เชื่อคนอื่นทำบาปและชัก นำไปสู่ความพินาศ (ข้อ 11) ไม่ได้เพียงทำบาปต่อพี่น้องคนนั้นเท่านั้น แต่ยังทำบาปต่อพระเจ้าด้วย เราต้องไม่ลืมว่าการที่พระเยซู คริสต์ต้องมาสิ้นพระชนม์บนกางเขนนั้นสาเหตุหลักก็คือการที่มนุษย์อยากทำตาม ความต้องการของตนเองตั้งแต่ปฐมกาล บทที่ 3

 

• พระเยซูได้เตือนว่าใครก็ตามที่วางสิ่งที่ทำให้สะดุดล่อลวงให้กระทำบาปต่อ หน้าพี่น้องคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเด็กๆ จะต้องรับการลงโทษอย่างรุนแรง
• มัทธิว 18:5-7 5ถ้าผู้ใดจะรับเด็กเล็กเช่นนี้คนหนึ่งในนามของเรา ผู้นั้นก็รับเราด้วย 6แต่ผู้ใดจะทำผู้เล็กน้อยเหล่านี้คนหนึ่งที่วางใจในเราให้หลงผิด ถ้าเอาหินโม่ก้อนใหญ่ผูกคอผู้นั้นถ่วงเสียที่ทะเลลึกก็ดีกว่า 7วิบัติแก่โลกนี้ด้วยเหตุให้หลงผิด ถึงจำเป็นต้องมีเหตุให้หลงผิด แต่วิบัติแก่ผู้ที่ก่อเหตุให้หลงผิดนั้น”

 

• การวาง “สิ่งที่ก่อให้เกิดการหลงผิด” - เช่น ความสนุกสนานบันเทิงตามแบบอย่างของโลก คำสอนตามปัญญาของมนุษย์ ภาพยนตร์ที่ผิดศีลธรรม สื่อลามกอนาจาร ยาเสพติด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แบบอย่างที่ไม่ดี ครูสอนผิด การเป็นมิตรที่ไม่ชอบธรรม – ก็คือการนำชีวิตไปเชื่อมต่อกับซาตานผู้ที่เป็นบิดาแห่งการโกหกหลอกลวงนั่น เอง (ยอห์น 8:44)

 

2. การประยุกต์ใช้ในกรณีอื่น

• ในบริบทท้องถิ่นของเราก็คล้ายๆ กับที่โครินธ์เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักพระเจ้า อาจจะมีคนนำเราไปเกี่ยวข้องกับรูปเคารพต่างๆ เช่น ยกรูปเคารพให้เรา หรือให้เราแสดงออกบางอย่างต่อรูปเคารพในพิธีกรรมตามความเชื่อ หรือในกรณีอื่นๆ แม้ไม่เกี่ยวกับรูปเคารพ แต่เป็นเรื่องที่อาจทำให้พี่น้องสะดุด เราก็สามารถนำหลักการจาก 1โครินธ์ บทที่ 8 รวมถึงบทเรียนในสองครั้งที่ผ่านมา ไปประยุกต์ใช้ได้

 

ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

ไม่สงวนลิขสิทธิ์โดย Christian CMU (คริสเตียน มช.)
http://www.christiancmu.com/2009-07-31-08-36-43/82--33-












= RESOURCES =
Sermon
คำเทศนา
Sermon Series
ชุดคำเทศนา
Worship
นมัสการวันอาทิตย์
Acts News
ข่าวคริสตจักร
Article
บทความน่าสนใจ
Music
เพลงนมัสการ
Movies
หนังน่าสนใจ
Book
หนังสือแนะนำ
Sources
บทเรียนสำหรับสมาชิก
Worship Song
เนื้อเพลงนมัสการ
  ศาสนศาสตร์คืออะไร ทำไมต้องศาสนศาสตร์
ทำไมคริสตชนต้องรู้ศาสนศาสตร์ ต้องศึกษาศาสนศาสตร์ รู้พระคัมภีร์เฉยๆ ไม่ได้หรือ?
  จงออกไปประกาศข่าวประเสริฐ
เราจะนอนหลับได้อย่างไร เมื่อทุกๆวันมีผู้คนกำลังตายไปโดยไม่ได้รับความรอด
  ความรักสี่แบบและความรักคริสเตียน
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งบันทึกด้วยภาษากรีก ปรากฏคำเกี่ยวกับความรักอยู่ถึง 4 คำด้วยกัน ใช้บรรยาย ความรักที่แยกย่อยได้ถึง 4 ประเภท
  น้ำพระทัยของพระเจ้า
พระคัมภีร์ไม่ได้สอนเรื่องน้ำพระทัยของพระเจ้าแก่เรา ให้เป็นแค่เพียงแค่ความรู้เท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราในฐานะของผู้เชื่อ
  การตีสอนของพระเจ้า
บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าท้อถอยในเมื่อพระองค์ทรงตีสอนนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และเมื่อพระองค์ทรงรับผู้ใดเป็นบุตร พระองค์ก็ทรงตีสอนผู้นั้น
  การรับประทานอาหารที่ถวายรูปเคารพ
การกระทำของเราควรตั้งอยู่บนความรักที่มีต่อพระเจ้าและคนอื่นเป็นอันดับแรก หากความรักเป็น สิ่งแรกที่เราใช้ในการตัดสินใจในสิ่งต่างๆ เราจะปฏิเสธที่จะทำหรือหนุนใจให้คนอื่นทำในสิ่งที่ทำให้ผู้เชื่อแม้แต่เพียง หนึ่งคนสะดุดซึ่งเป็นเหตุนำเขาไปสู่ความพินาศ
 
MORE
ดูทั้งหมด


 
CONTACT
Vision | Mission Statement | Core Values | Pastor | Milestones
Sunday Service | Children Church | Bible Classes | Cell Groups | Pray Meeting
Adult | Young Pro. | Youth | Children | Toa
Visit Service | Visit Cell Groups | Membership | Church Office | Sunday Activities
Outreach | Church Camp | Membership | City Wide | Children | Worship Team | Art Class
Sermon | Worship | Bulletin | Acts News | Article | Music | Movies | Book | Sources